เทคนิคเลือกประตูบ้านให้ตรงตามห้อง หมดปัญหาตามมา

3076 จำนวนผู้เข้าชม  | 

เทคนิคเลือกประตูบ้านให้ตรงตามห้อง หมดปัญหาตามมา

เทคนิคเลือกประตูบ้านให้ตรงตามห้อง หมดปัญหาตามมาทีหลัง!

ระตูบ้านคือส่วนประกอบสำคัญภายในบ้าน ทำหน้าที่สร้างความปลอดภัยแก่คนภายในบ้าน แต่สำหรับการเลือกประตูบ้าน นอกจากความสวยงามและทนทาน ยังมีความละเอียดอ่อนที่แฝงอยู่ภายใต้บานประตู ตั้งแต่เรื่องความชื้นจนไปถึงตำแหน่งที่ตั้ง ซึ่งรายละเอียดเหล่านี้เป็นตัวช่วยให้คุณเลือกประตูบ้านได้ตรงตามความต้องการมากขึ้น

ทำความรู้จักวัสดุของประตูก่อน

1.ประตูไม้จริง

ประตูที่ทำจากไม้ธรรมชาติ โดยประตูไม้จริงสามารถปรับเปลี่ยนให้เข้ากับรูปแบบบ้านได้หลากหลายสไตล์ จากโทนสีของไม้ที่แตกต่างกัน สำหรับไม้ที่นิยมนำมาทำประตูคือ ไม้แดง ไม้โอ๊ค ไม้เต็ง เนื่องจากเป็นไม้เนื้อแข็งทำให้ประตูบ้านมีความแข็งแรงทนทาน

ข้อดีของประตูไม้จริง

มีความแข็งแรง ทนทาน
มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวจากลวดลายของไม้

ข้อเสียของประตูไม้จริง

ประตูไม้จริงจะหดและขยายออก หากได้รับความชื้น
มีโอกาสเกิดปลวกได้



2.ประตูไม้ WPC

ประตูไม้ WPC (Wood Plastic Composite) ทำมาจากไม้ผสมกับโพลีเมอร์หลากชนิด ซึ่งไม้มีโครงสร้างเส้นใยที่แข็งแรง ส่วนโพลีเมอร์ มีคุณสมบัติกันความชื้น ไม่ดูดซึมน้ำ ซึ่งจากการผสมผสานจุดเด่นของแต่ละส่วนประกอบจึงทำให้ได้ประตูที่มีความแข็งแรงและกันความชื้น

ข้อดีของประตูไม้ WPC

ปลวกไม่ขึ้น หมดปัญหาเรื่องความเสียหายที่เกิดขึ้นจากปลวก
วัสดุไม่ไวไฟ ลดความเสี่ยงปัญหาอัคคีภัย
มีความแข็งแรงทนทาน
ทนความชื้นได้ดีไม่บวมเมื่อโดนน้ำ

ข้อเสียของประตูไม้ WPC

การดัดแปลงปรับใช้ในส่วนอื่นทำได้ยาก เนื่องจากรูปแบบของประตูที่ขึ้นรูปมาโดยเฉพาะ ทำให้ไม่สามารถปรับแต่งได้



3.ประตูไม้อัด HDF

ประตูไม้อัด HDF (High Density Fiber) ทำมาจากการนำเศษไม้ขนาดเล็กนำมาผสมกับเรซินจากนั้นจึงอัดด้วยความร้อนสูง จากส่วนผสมที่ทำจากเศษไม้ทำให้ประตูไม้อัดมีลักษณะเฉพาะตัวคือความเบาแต่ความหนาแน่นของประตูต่ำจึงเกิดความเสียหายจากแรงกระแทกได้ง่าย

ข้อดีของประตูไม้ HDF

ปลวกไม่ขึ้นไม้
ทนความชื้นได้ในระดับหนึ่ง สามารถนำไปเป็นประตูห้องน้ำได้

ข้อเสียของประตูไม้ HDF

ถึงแม้จะทนความชื่นได้ แต่ไม่ควรนำไปถูกฝนและแดดโดยตรงเพราะจะทำให้เสื่อมสภาพเร็ว

4.ประตูไม้เอนจิเนียร์
สำหรับประตูไม้เอนจิเนียร์ คือประตูที่ทำมาจากการขึ้นโครงสร้างไม้จริงผสมกับไม้อัดจากนั้นจึงนำไม้วีเนียร์ในการฉาบหน้าประตู โดยไม้วีเนียร์คือเยื่อไม้แผ่นบางๆ นิยมนำมาใช้เพื่อสร้างความสวยงาม ซึ่งการผสมระหว่างไม้จริง ไม้อัดและไม้วีเนียร์ ทำให้ประตูไม้เอนจิเนียร์ มีความแข็งแรงและสวยงามในคร่าวเดียวกัน

ข้อดีของประตูไม้เอนจิเนียร์

มีความแข็งแรงเทียบเท่าไม้จริง
มีลวดลายสวยงามเฉพาะ เนื่องจากไม้วีเนียร์ทำมาจากท่อนซุง ทำให้ลวดลายและผิวสัมผัสคล้ายกับไม้จริง

ข้อเสียของประตูไม้เอนจิเนียร์

มีความยืดหดตัวเมื่อโดนความชื้น เช่นเดียวกันกับไม้จริง

 

5. ประตูยูพีวีซี (UPVC)

ประตูยูพีวีซีเป็นประตูที่พัฒนามาจากประตูพีวีซี แต่ปรับเปลี่ยนรูปแบบของโครงสร้าง โดยประตูยูพีวีซีใช้ไม้ WPC มาใช้เป็นโครงสร้างหลักทำให้เพิ่มความแข็งแรงได้มากกว่าประตูพีวีซี แต่ก็ยังถือว่าเป็นประตูที่รับแรงกระแทกได้น้อยอยู่ดี

ข้อดีของประตูยูพีวีซี

เก็บเสียง สามารถกันเสียงรบกวนจากภายนอก
ไม่เป็นวัสดุไวไฟ
ทนต่อสภาพอากาศ กันน้ำและความชื้นได้ดี

ข้อเสียของประตูยูพีวีซี

ไม่ทนต่อแรงกระแทก เปราะบาง แตกหักง่าย
ไม่ดูดซึบสี ทำให้ทาสีตกแต่งได้ยาก

เทคนิคการเลือกประตูบ้านให้ตรงตามห้อง
1.ตำแหน่งการใช้งาน ภายนอกหรือภายในบ้าน
สำหรับการเลือกซื้อประตู ต้องสำรวจความต้องการก่อนว่าต้องการใช้ประตูบริเวณภายนอกหรือภายในบ้าน หลังจากทราบความต้องการแล้วจึงนำคุณสมบัติของประตูละประเภทมาเปรียบเทียบกัน ยกตัวอย่างเช่น

ถ้าหากเป็นประตูภายนอก ควรพิจารณาจากคุณสมบัติเรื่องการทนทานต่อความชื้น ทนทานต่อแสงแดดและความแข็งแรง ดังนั้นจึงไม่ควรเลือกใช้ประตูที่ทนความชื้นได้น้อย อย่าง ประตู UPVC แต่ควรใช้ประตูที่ทนทานต่อสภาพอากาศอย่างประตู WPC

ส่วนประตูภายในบ้าน สิ่งที่ควรคำนึงถึงคือความสวยงามและความต้องการของผู้ใช้งาน เช่น หากต้องการประหยัดพื้นที่ภายในบ้าน ประตูที่ควรเลือกใช้ควรเป็นประตูบานเลื่อน หรือต้องการเปิดพื้นที่ในบ้านเชื่อมติดต่อกัน ประตูที่เหมาะกับการใช้งานลักษณะนี้คือ ประตูบานเฟี๊ยมเป็นต้น

2.เลือกจากประเภทของห้อง
ประตูบ้าน
สำหรับประตูบ้านในที่นี้คือประตูที่เชื่อมจากภายนอก เช่น โรงจอดรถ สวน เข้าสู่ภายในบ้าน สำหรับประตูบ้านถือว่าเป็นหน้าตาของบ้าน ดังนั้นการเลือกประตูบ้านจึงต้องคำนึงถึงความสวยงามเป็นหลัก

แต่ทั้งนี้นอกจากความสวยงามแล้ว การเลือกประตูบ้านควรคำนึงถึงตำแหน่ง เนื่องจากประตูบ้านเป็นประตูที่ต้องรับกับสภาพอากาศทั้งแดดและฝนอยู่เสมอ หากบ้านไหนไม่ได้ติดตั้งระแนงไม้เพื่อลดแดด ก็ควรเลือกประตูที่ทนทานต่อสภาพอากาศเช่น ประตูไม้จริงหรือประตูWPC เป็นต้น

 

3.เลือกจากวัตถุประสงค์การใช้งาน
เลือกจากความสวยงาม
สำหรับใครที่อยากได้ประตูที่เน้นความสวยงาม ควรเลือกประตูไม้จริง เนื่องจากมีลวดลายที่เฉพาะตัวไม่ซ้ำใคร แต่ด้วยไม้จริงมีราคาที่สูง หากใครที่อยากได้ความสวยงามจากลายไม้ การเลือกใช้ประตูไม้ WPC ก็เป็นทางเลือกที่ดี แต่นอกจากลายไม้แล้ว รูปทรงของประตูก็น่าสนใจไม่แพ้กัน เช่น การเลือกใช้ประตูบานเลื่อนสไตล์ญี่ปุ่น ก็เป็นวิธีที่จะช่วยเพิ่มความสวยงามได้เช่นเดียวกัน

 

ก่อนการเลือกประตูบ้านควรศึกษาถึงวัสดุและลักษณะของประตู เพื่อนำไปติดตั้งให้เหมาะสมกับการใช้งาน ซึ่งประตูแต่ละประเภทมีจุดเด่นและความเหมาะสมในการใช้งานที่แตกต่างกัน เช่น ประตูuPVC เหมาะสำหรับห้องน้ำเพราะกันความชื้นได้ แต่ไม่เหมาะกับห้องนอนเพราะไม่แข็งแรงทนทาน เป็นต้น

สำหรับใครที่กำลังสนใจในการตกแต่งบ้าน ทาง Bumrungthai.com ได้รวบรวมไอเดียและของตกแต่งบ้านคุณภาพดี มีให้เลือกหลากหลาย โดยภายในเว็บคุณสามารถเปรียบเทียบราคาและคุณสมบัติสินค้าได้ด้วย ทำให้ประหยัดทั้งเงินและเวลาในการเลือกสินค้า ซึ่งหากใครสนใจอย่าลืมเข้าไปที่ Bumrungthai.com เพราะเราพร้อมเป็นตัวช่วยเปลี่ยนความฝันเรื่องบ้านให้เป็นความจริง!

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้